
ตะลอนเที่ยวเชียงราย กินอร่อย บินสบายกับ Bangkok Airways
สวัสดีค่ะ
วันนี้เราจะพาไปเที่ยว เชียงรายกันนะคะ
ทริปนี้เป็นทริปที่พิเศษมากๆ เราได้ตะลอนเที่ยว จังหวัดเชียงราย เป็นเวลา 4 วัน ได้ชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดเชียงรายหลายที่หลายอารมณ์มาก เรียกได้ว่าครบตามขำขวัญของจังหวัดที่ว่า ” เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง ” กันเลยทีเดียว
น่าจะเป็นรีวิวที่ยาวมากที่สุดเท่าที่เราเคยทำมาค่ะ เพราะอยากนำภาพที่เที่ยวต่างๆมาฝากให้ได้ชมกันจนครบ นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆแล้ว เรายังได้ตระเวณชิมของดังของเด็ดของที่นี่หลายร้านอีกด้วย ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวเชียงรายให้กับเพื่อนๆได้นะคะ
การเดินทางครั้งนี้ เราเดินทางกับ Bangkok Airways Asia’s Boutique Airline สายการบินแสนสบาย อิ่มตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเครื่อง
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ได้เปิดให้บริการบินตรงเส้นทาง กรุงเทพฯ – เชียงราย 2 เที่ยวบินต่อวัน
บินจากกรุงเทพ (สุวรรณภูมิ)
BKK – CEI 07:35 – 08:55 น.
BKK – CEI 18:05 – 19:25 น.
บินจากเชียงราย
CEI – BKK 09:45 – 11:05 น.
CEI – BKK 20:10 – 21:30 น.
Boutique Lounges จัดไว้บริการสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน ภายในมีของว่างและเครื่องดื่มพร้อมทั้ง Wi Fi ให้บริการ ระหว่างรอขึ้นเครื่อง
พร้อมแล้วที่จะออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

อาหารบนเครื่อง มี เบอร์เกอร์ ผลไม้รวม และโยเกิร์ตสด
มาถึงจังหวัดเชียงรายแล้ว
สถานที่แรก เราจะไปสักการะ อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช มหาราชแห่งแคว้นลานนา…ผู้สร้างเมืองเชียงราย เพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อนนะคะ
อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ตั้งอยู่ที่ถนนห้าแยกพ่อขุนเม็งรายมหาราช ถนนเชียงราย-แม่จัน (ติดถนนซุปเปอร์ไฮเวย์) ในเขตเทศบาลนครเชียงราย
สถานที่ต่อมาคือ วัดพระแก้ว เดิมชื่อวัดป่าญะ หรือป่าเยียะ (ป่าไผ่ชนิดหนึ่ง) ต่อมาในปี พ.ศ.๑๙๗๗ ได้พบพระแก้วมรกตเป็นครั้งแรก ณ พระเจดีย์หลังพระอุโบสถ วัดนี้จึงได้ชื่อใหม่ว่า “วัดพระแก้ว” ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๑
หอพระหยก อาคารทรงล้านนาโบราณ เป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธรตนากร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล” หรือ “พระหยกเชียงราย”
โฮงหลวงแสงแก้ว อาคารทรงล้านนาประยุกต์ ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญ รวมทั้งศิลปวัฒนธรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาในรูปแบบที่ทันสมัย
สถานที่ต่อไป ไร่บุญรอด เป็นไร่ของบริษัท บุญรอด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ เส้นทางเดียวกับวัดร่องขุน อ.เมือง จ.เชียงราย
เป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงเกษตรแห่งใหม่ ภายในไร่บุญรอดนอกจากจะมีแปลงปลูกข้าวบาร์เลต์ของเบียร์สิงห์ซึ่งอยู่ด้านหน้าแล้วยังมีพื้นที่เกษตรกรรม และไร่ชากว่า 600 ไร่
ภายในไร่มีให้บริการนั่งรถชมส่วนต่างๆภายในพื้นที่
แปลงดอกไม้ต่างๆมีปลูกอยู่อย่างมากมาย ปลูกบนเนินเขากว้าง สุดลูกหูลูกตา
แต่เนื่องจากเรามากันในช่วงหน้าร้อน ดอกไม้ต่างๆไม่สภาพทนต่อสภาพอากาศร้อนๆได้เลยยังไม่ค่อยสวยงามเท่าที่ควร ซึ่งหากมาในฤดูหนาว เชื่อว่าจะสวยมากๆค่ะ
นอกจากจะมีไร่ชาและดอกไม้ให้ชมแล้ว อีกกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือการให้อาหาร ยีราฟและม้าลายน่าจะเป็นที่ถูกใจของเด็กๆเลยค่ะ
มื้อกลางวันนี้เรามาทานอาหารกันที่ “ภูภิรมย์” บนจุดชมวิว 360 องศา เป็นอีกร้านอาหารแนะนำที่วิวสวยมากๆ
เมนูอาหารต่างๆที่น่าสนใจหลายเมนูค่ะ ทั้งยำใบชา ใบชาทอดกรอบ และอาหารเหนือต่างๆ ออเดิร์ฟเมือง สปาเกตตี้ไส้อั่ว ไก่ย่าง สะเต๊ะไก่
ด้านหน้าของไร่บุญรอด ยังมีร้านกาแฟเล็กๆ ให้บริการ ชา กาแฟ เครื่องดื่มและเบเกอรี่ด้วย เครื่องดื่มรสชาติดีค่ะ
อิ่มท้องกันแล้ว สถานที่ต่อไปจะพาไป วัดร่องขุ่น กันค่ะ เสียดายว่าช่วงที่ไปเป็นช่วงที่มีหมอกควัน ภาพเลยออกมามัวๆ ไม่สวยเหมือนของจริงเท่าที่ควรเลยค่ะ
วัดร่องขุ่น เป็นวัดที่สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินของจังหวัดเชียงราย เพื่อมุ่งสร้างงานพุทธศิลป์ที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองและประกาศความยิ่งใหญ่ต่อคนทั้งโลกเพื่อถวายต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติในนาม “White Temple”
ซึ่งช่วงนี้หลังจากเกิดแผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงราย วัดร่องขุ่นได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้มากพอสมควร จึงปิดการให้เข้าชมอยู่
หากไปเที่ยวชม คงได้ชมแต่เพียงภายนอกเท่านั้น หวังว่าจะทำการซ่อมแซมได้นะคะ
อาจารย์เฉลิมชัย เคยกล่าวไว้ว่า “ผมปรารถนาอยากจะสร้างวัดให้เหมือนมีสวรรค์ เป็นวิมานบนดินที่มนุษย์โลกสามารถสัมผัสได้” ซึ่งจากการได้เข้าชม ก็ถือว่าสวยดั่งสวรรค์จริงๆค่ะ
การเดินขึ้นไปบนอุโบสถ สามารถเดินขึ้นไปได้อย่างเดียว ห้ามเดินย้อนกลับ เพราะเปรียบเหมือนเราเดินผ่านนรกขึ้นไปสวรรค์แล้ว ไม่ควรเดินย้อนลงกลับมาที่นรกอีก
ชมศิลปะแบบสีขาวกันแล้ว สถานที่ต่อไปชมศิลปะอีกแบบที่เป็นสีดำกันบ้างนะคะ
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ
ตั้งอยู่ที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย สร้างขึ้นโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ที่มีฝีมือทางด้าน จิตรกรรม ปฏิมากรรม ได้สร้างงานด้านศิลปะไว้มากมาย ทั้งทางด้านภาพเขียน และ ด้านปฏิมากรรม หลายชิ้น
เปิดทำการเวลา 9:00 – 12:00 น. และเวลา 13:00 – 17:00 น.
ซึ่งลักษณะของอาคาร จะเป็นเหมือน หมู่บ้าน มีอาคารต่างๆที่ล้วนแต่ทาด้วยสีดำ
อาคารหลังแรก จะเป็นส่วนแสดงผลงานศิลปะต่างๆ และของสะสมของ อ.ถวัลย์ ดัชนี
ของสะสม จะเป็นประเภท หนังสัตว์ป่า เขาสัตว์ต่างๆ
โดยในบริเวณบ้านประกอบไปด้วยบ้านทั้งหมด 36 หลัง ที่มีลักษณะ แตกต่างกันไป ซึ่งบ้านเหล่านี้ไม่ได้สร้างไว้สำหรับอยู่อาศัยแต่สร้างไว้สำหรับเก็บสิ่งของสะสมต่าง ๆ ของอาจารย์ถวัลย์ จะเปิดให้ชมเป็นบางหลังเท่านั้นค่ะ
ช่วงค่ำ เรามาเดินเที่ยวกันที่ เชียงรายไนท์บาซาร์
สำหรับสินค้าที่มีขายในตลาดเชียงรายไนท์บาร์ซาร์ โดยส่วนมากจะเป็นของจำพวกของที่ระลึกฝีมือชาวเขาเผ่าต่าง ๆ และสินค้าแฮนด์เมดของชาวเชียงราย ซึ่งสินค้าต่างๆราคาไม่แพงเลยค่ะ
หอนาฬิกา จังหวัดเชียงราย มีความวิจิตรตระการตา เป็นศิลปะแบบเดียวกับที่วัดร่องขุ่น
ทุกคืนเวลา 1 ทุ่ม 2 ทุ่ม และ 3 ทุ่ม จะมีการแสดงแสงสีเสียง ที่หอนาฬิกาประกอบเพลงเชียงรายรำลึก
ที่พักสำหรับคืนแรกของเราคือ โรงแรมโพธิ์วดล รีสอร์ท แอนด์
เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ท่ามกลางธรรมชาติ มีห้องพักให้เลือกหลายแบบ ทั้งบนอาคาร บ้านเป็นหลังและสำหรับครอบครัว
เช้าวันต่อมา เราได้เดินทางไป ดอยตุง เพื่อศึกษาดูงานที่โครงการพัฒนาดอยตุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อาทิเช่นโรงงานผลิตกาแฟ หัตถกรรมฝีมือต่างๆเช่นผลิตภัณฑ์จากกระดาษสา มีการฝึกอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวเขาบนดอยตุง ให้ความรู้ในการการปลูกพืชต่างๆเพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น
“สา” เป็นพืชดั้งเดิมของดอยตุง มูลนิธิจึงส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกเพิ่มขึ้น พร้อมกับตั้งโรงงานทำกระดาษสา
โดยนำวิทยากรจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาสอนเทคนิคการทำ จนปัจจุบันงานกระดาษสาของดอยตุง กลายเป็นสินค้าที่วางจำหน่ายทั่วประเทศ
กาแฟพันธุ์อาราบิก้า พืชเศรษฐกิจที่ปลูกทดแทนฝิ่น โครงการพัฒนาดอยตุงฯ คัดเลือกกาแฟพันธุ์อาราบิกาชั้นดี มาปลูกบนพื้นที่สูง 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และปลูกอยู่ใต้ป่า กาแฟดอยตุงจึงมีกลิ่นหอม คุณภาพสูง เก็บและคัดเมล็ดด้วยมือ และคั่ว บด อย่างพิถีพิถัน ทำให้กาแฟทุกแก้วในร้านคาเฟ่ ดอยตุง มีรสชาติดี
พระตำหนักดอยตุง
พระตำหนักเป็นอาคารสองชั้น และชั้นลอย ชั้นบนแยกเป็นสี่ส่วน แต่เชื่อมต่อกันเป็นอาคารหลังเดียว และมีกาแลและไม้แกะสลักเป็นเชิงชายลายเมฆไหลที่อ่อนช้อยโดยรอบ สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างบ้านปีกไม้ ศิลปะล้านนากับชาเลต์แบบ Swiss Chalet กลางห้องเป็นที่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์เพื่อผู้มาเยือนได้สักการะ สามารถชมห้องบรรทมและห้องทรงงานที่สะท้อนพระราชจริยวัตรอันงดงามเรียบง่ายและภายหลังการสวรรคตของสมเด็จย่า พระตำหนักยังได้รับการอนุรักษ์ ไว้เป็นอย่างดี
การเข้าชม จะให้นักท่องเที่ยวใส่หูฟังเพื่อฟังการบรรยายเกี่ยวกับพื้นที่ส่วนต่างๆภายในพระตำหนัก
รอบพระตำหนักประดับด้วยไม้ดอกนานาพันธุ์ จัดแต่งอย่างสวยงาม สำหรับคนที่ชื่นชอบดอกไม้ต่างๆ น่าจะชอบที่นี่มากๆค่ะ
Cafe Doi Tung ตั้งอยู่บริเวณหน้าสวนแม่ฟ้าหลวง มีบริการเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งบอกเลยว่า เครื่องดื่มของที่นี่รสชาติดีมากๆค่ะ
ครั้งนี้เราได้ชิม Creme macadamia แก้วนี้ไป ติดใจมากๆค่ะ หอมอร่อยมากแนะนำเลยว่าต้องลอง
สวนแม่ฟ้าหลวงตั้งอยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับนานาพรรณ มีดอกไม้เมืองหนาวต่างๆหลายชนิด
ชื่นชมความงามของพระตำหนักดอยตุงได้สักพัก ก็ถึงเวลาช้อปปิ้งที่แม่สายกันแล้วค่ะ
ด่านแม่สาย อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 62 กม. เป็นอำเภอเหนือสุดของประเทศไทย ติดต่อกับประเทศพม่าที่ท่าขี้เหล็ก โดยมีแม่น้ำแม่สายเป็นพรมแดน มีสะพานเชื่อมเมืองทั้งสองเข้าด้วยกัน
การเดินทางข้ามไปยัง ท่าขี้เหล็ก ฝั่งพม่านั้น ต้องทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวเพื่อเข้าประเทศพม่าค่ะ
สินค้าดังของพม่า ทานาคา
ข้ามมาฝั่งนี้ นอกจากเราจะได้ช้อปปิ้งสินค้าต่างๆแล้ว ยังได้เห็นวิถีชีวิตของชาวพม่าด้วยค่ะ
ช้อปปิ้งกันจนเหนื่อย ก็ได้เวลาอาหารมื้อค่ำ ซึ่งเราฝากท้องกันที่ร้าน หลู้ลำ
ร้านอาหารหลู้ลำ ได้เปิดให้บริการมามากกว่า 30 ปี ให้บริการอาหารพื้นเมือง (รสชาติดั้งเดิม)
บรรยากาศแบบล้านนานั้น ริมน้ำกก
เมนูอาหารเมือง รสชาติดั้งเดิม ลาบหมูคั่วกับสมุนไพรสด
น้ำพริกอ่อง กับผักสดๆและแคปหมู
ปลาทับทิมทอดกระเทียม
บรรยากาศสวยๆริมน้ำกก
เข้าที่พักกันค่า คืนนี้เราพักกันที่ โรงแรมคำธนา เชียงราย (KhamThana Hotel Chiang Rai) เป็นโรงแรมเปิดใหม่ขนาด 70 ห้อง ตกแต่งและออกแบบในลักษณะ Contemporary Colonial Style
พื้นที่ภายในห้อง มีขนาดกว้าง เตียงใหญ่นุ่มสบาย
สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ อยู่พื้นที่ส่วนกลางของโรงแรม
เช้าวันต่อมา เราไปชมความสวยงามของไร่ชาฉุยฟงกันค่ะ
ไร่ชาฉุยฟง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านพญาไพร ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวงและ อำเภอแม่จัน จังหวัด เชียงราย
เป็นแหล่งปลูกชาชั้นดี ของ บริษัท ฉุยฟงที จำกัด ซึ่งป็นผู้ผลิตใบชารายใหญ่ที่สุดใน จังหวัดเชียงราย มีพื้นที่มากกว่า 1,000 ไร่
บรรยากาศโดยรอบ โอบล้อมด้วยขุนเขา ซึ่งเป็นพื้นที่แปลงปลูกชา มองไปทางไหนก็เขียวสดชื่นทั้งหมดค่ะ ช่วงหน้าหนาวคงจะอากาศดีมากๆ
มีสินค้าและชาขายอยู่บริเวณร้านค้าด้านบน และยังมี ชากาแฟ เครื่องดื่มต่างๆรวมถึงเบเกอรี่ให้บริการด้วยค่ะ
รสชาติขนมและเครื่องดื่ม ถือว่ายังทำได้ไม่ดีมากนักค่ะ ถือว่าได้ชิมไปชมบรรยากาศไปถือว่าคุ้มอยู่ค่ะ
Thai tea Toast จานนี้ถือว่าผ่านค่ะ
สถานที่ต่อไป สามเหลี่ยมทองคำ
สามเหลี่ยมทองคำคือพื้นที่รอยต่อระหว่างสามประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย (จังหวัดเชียงราย) ลาว (แขวงบ่อแก้ว) และพม่า (แขวงท่าขี้เหล็ก, รัฐฉาน)
ด้านบนจะมีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้มองเห็นพรมแดนทั้งสามประเทศ ซึ่งมีเพียงแม่น้ำกั้น
วัดถ้ำป่าอาชาทอง ตั้งอยู่ที่ ตำบลศรีค้ำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
วันนี้เราตั้งใจตื่นแต่เช้า เพื่อเดินทางไปใส่บาตรพระขี่ม้าบิณฑบาตรที่วัดแห่งนี้กันค่ะ
พระครูบาเหนือชัย แต่เดิม ท่านต้องเดินเท้าลงมาเพื่อรับบิณฑบาตรจากชาวบ้าน ซึ่งมีระยะทางในการเดินซึ่งไกลมาก
กว่าท่านจะกลับถึงวัดก็เลยเวลาฉันท์เพลไปแล้ว ทำให้ชาวบ้าน ได้นำม้ามาถวายให้ท่านเพื่อใช้ในการเดินทางบิณฑบาตร
ซึ่งม้าดังกล่าวเป็นม้าที่มีลักษณะดี ร่างกายกำยำ พระครูบาจึงตั้งชื่อให้ว่า ‘ม้าอาชาทอง’ และใช้ชื่อดังกล่าว เป็นชื่อวัดด้วย
จึงเป็นที่มาของ “วัดป่าอาชาทอง” และพระขี่มาบิณฑบาต ซึ่งสร้างความแปลกใจจนกลายเป็น หนึ่งใน ‘Unseen Thailand’
ข้าวโพดของโปรดของม้า สามารถซื้อเพื่อให้อาหารได้
ไม่ไกลจากวัดป่าอาชาทอง เราได้เดินทางมาชม วัดพระธาตุจอมจันทร์ ตำบลสันทราย อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
ซึ่งเป็นวัด ที่ได้ทำการบูรณะจากวัดเดิมซึ่งถูกไฟป่าเผาทำลายไป คงเหลือไว้แต่พระเจดีย์และวิหาร
วัดและอุโบสถหลังใหม่ สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธา มีศิลปะงานแกะสลักและงานปั้นอันปราณีตงดงามมาก
ความเชื่อ ในการไหว้ พระธาตุจอมจันทร์ เชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานผิวพรรณสวยงามเปล่งปลั่งรัศมีดุจแสงจันทร์งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ไร่เชิญตะวัน เป็นศูนย์ปฎิบัติธรรม ที่ท่านพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิระเมธี) ได้สร้างขึ้น จากแรงบัดดาลใจที่จะหาที่ปลีกวิเวกส่วนตัวสงบๆกลายมาเป็นที่ส่วนร่วมเพื่อทุกคน
พื้นที่ภายในมีจัดเป็นส่วนต่างๆ บริเวณโดยรอบร่มรื่น มีพืชพรรณต่างๆทั่วพื้นที่
มีการตกแต่งอย่างน่ารัก เพื่อดึงดูดให้เด็ก หันมาสนใจธรรมะ
ปิดหู ปิดตา ปิดปาก เปิดใจ
วิวสวยๆ รายล้อมด้วยน้ำและภูเขา
หลังจากได้ชมได้ชิม ของดีเมืองเชียงรายกันมาจนครบแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางกลับกันแล้วค่ะ
ที่สนามบินเชียงราย จะมีมุมอาหารและเครื่องดื่มให้บริการก่อนขึ้นเครื่องเช่นเดียวกันค่ะ
ขอขอบคุณสายการบิน Bangkok Airways – Asia’s Boutique Airline ที่ชวนไปเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวเชียงรายค่ะ
ทำให้ได้ชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเชียงรายและยังไม่ชิมของอร่อยๆของที่นี่อีกด้วย
และขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมรีวิวนี้นะคะ หวังว่าคงได้ประโยชน์และข้อมูลจากรีวิวนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการเที่ยวเชียงรายกันบ้างนะคะ
Comments
You May Also Like

At Pingnakorn Huaykaew Chiang Mai
August 8, 2014
Play La Ploen เพ ลา เพลิน จ. บุรีรัมย์
August 15, 2015