
+.+ [ Let’s fly boutique ] หลงเสน่ห์ มัณฑะเลย์ Mandalay +.+
มัณฑะเลย์ ราชธานีแห่งสุดท้ายของพม่า เมืองใหญ่แห่งฝั่งตะวันออกของแม่น้ำอิระวดี เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ไม่ว่าจะเป็น พระราชวังที่สวยงาม มีศิลปวัฒนธรรมที่สวยงาม วัดวาอารามที่สำคัญๆของชาวพม่าอีกลายแห่ง ก่อนหน้านี้บอกได้เลยค่ะว่า พม่าในสายตาเราเป็นประเทศที่น่าจะน่ากลัวนิดๆ การเดินทางอาจจะลำบาก แต่เมื่อได้มาสัมผัส ผิดคาดมากค่ะ หลังจากที่ได้มาสัมผัสมัณฑะเลย์แล้ว บอกได้เลยว่าหลงเสน่ห์เมืองนี้มากๆ เมืองที่เป็นธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆสวยงาม ผู้คนน่ารักและเป็นมิตรมาก ไม่มีอะไรที่น่ากลัวเหมือนที่เราคิดไว้เลย ถือว่าเป็นอีกเมืองที่เดินทางใกล้ๆและน่าเที่ยวมากๆค่ะ ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีมากที่เราได้ร่วมเดินทางไปกับทริป บางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) ที่พาสื่อต่างๆไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองมัณฑะเลย์ นอกจากนั้น ยังได้แวะเวียนไปชมเมืองหลวงใหม่อย่างเนปิดอว์อีกด้วยค่ะ ไปเยี่ยมชมเมืองแห่งศรัทธาและสเน่ห์น่ารักๆของมัณฑะเลย์ รวมถึงเมืองหลวงใหม่อย่างเนปิดอว์ด้วยกันเลยนะคะ

เริ่มต้นการเดินทาง จากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) บางกอกแอร์เวย์ส ให้บริการบินตรงในเส้นทางกรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์ (สหภาพเมียนมาร์) ทุกวัน โดยใช้เครื่องบินแบบแอร์บัส A319 ขนาด 144 ที่นั่ง เที่ยวบินขาไป ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 12.05 น. ถึง มัณฑะเลย์ เวลา 13.25 น. เที่ยวบินขากลับ ออกจากมัณฑะเลย์ เวลา 14.15 น. ถึง กรุงเทพฯ เวลา 16.40 น. เป็นเวลากำลังสบายๆเลยค่ะ ไม่ต้องตื่นเช้ามากๆ …. VISA …. การเข้าประเทศพม่านั่น ต้องทำการขอวีซ่าด้วยค่ะ ซึ่งใช้เอกสารในการขอวีซ่าดังนี้ 1. พาสปอร์ตฉบับจริง มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป 2. สำเนาพาสปอร์ต 1 ฉบับ 3. แบบฟอร์มขอวีซ่า 4. รูปถ่าย 2×2 นิ้ว 2 รูป พื้นหลังขาว ค่าธรรมเนียมการทำวีซ่าอยู่ที่ 810 บาท ใช้เวลาทำภายใน 3 วันทำการ และมีแบบเร่งด่วน 1 วันทำการซึ่งค่าธรรมเนียมสูงกว่าค่ะ สถานที่ขอวี่ซ่า อยู่ที่ สถานทูตพม่า ถนน สาธรเหนือ เปิดให้บริการในการรับแบบฟอร์มและยื่นเอกสาร 9.00 น. – 12.00 น. …. Boutique Lounge …. หลังจากผ่าน ตม.แล้วเราจะไปนั่งรอขึ้นเครื่องกันที่ Boutique Lounge กันนะคะ สำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศอยู่ที่ชั้น 3 อาคารเทียบเครื่อง A ติดกับทางเข้าอาคาร ซึ่งครั้งนี้เราได้ใช้บริการในส่วนของ Blue Ribbon Class ห้องพักรับรองของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ในชั้นธุรกิจ ภายในมีมุมสบายๆให้นั่งหลายมุม มีเมนู เครื่องดื่ม และอาหาร ให้เลือกสั่งตามสะดวก บรรยากาศภายใน Blue Ribbon Class ภายในไม่กว้างมาก แต่ก็หรูดูดี
ข้าวต้มมัดสุดอร่อย ของโปรดของใครหลายๆคน
บะหมี่เป็ดย่างโฟร์ซีซั่น จานใหญ่มากค่ะ หน้าตาอาจจะดูไม่สวยงามเท่าไร แต่รสชาติเริ่ดทีเดียวค่ะ
ระหว่างรอขึ้นเครื่อง เจอหนุ่มพม่านุ่งโสร่งมายืนกับเราด้วย เราไปไม่ผิดประเทศแน่ๆค่ะ
เมนูบนเครื่อง มื้อนี้เสิร์ฟเป็น บะหมี่ผัดกุ้ง และขนมต่างๆ
เครื่องดื่มมีให้เลือกหลาย น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เบียร์และไวน์ เลือกได้ตามชอบเลยค่ะ
ใช้เวลาโดยประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที บางกอกแอร์เวย์ส์ก็พาเรามาถึงสนามบินมัณฑะเลย์แล้วค่ะ เวลา พม่าจะช้ากว่าไทย 30 นาที
…. แลกเงิน …. สกุลเงินที่ใช้ในพม่า คือ จ๊าด (Kyat) แต่สถานที่บางแห่งก็ใช้ US Dollar ได้ค่ะ
จากไทยให้แลกเป็น US Dollar ไปก่อน ค่อยไปแลก จ๊าด (Kyat) ที่พม่าอีกครั้ง
ในทริปนี้ เราเดินทางโดยทัวร์เลยแลกกับไกด์ค่ะ เพื่อความสะดวกแต่อัตราแลกเปลี่ยนจะสูงกว่าแลกที่ธนาคารเองนะคะ
…. สถานที่ท่องเที่ยว ….
เริ่มจากพระราชวังในมัณฑะเลย์กันก่อนนะคะ พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) ถูกก่อสร้างขึ้นมาโดยพระเจ้ามินดง หลังการย้ายเมืองหลวงจากอมระปุระมายังมัณฑะเลย์
เป็นพระราชวังที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง มีคูน้ำรอบพระราชวังและประตูที่ยิ่งใหญ่ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องบินฝ่านสัมพันธมิตรโดยกองทัพอังกฤษได้ทิ้งระเบิดจำนวนมากมายถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ของพม่า ด้วยเหตุผลว่า พระราชวังแห่งนี้เป็นแหล่งซ่องสุมกำลังทหารของ พระราชวังจึงถูกไฟไหม้เสียหาย หลงเหลือแต่ป้อมปราการและคูน้ำรอบพระราชวัง ที่ยังเป็นของเดิมอยู่ ปัจจุบันพระราชวังที่เห็นอยู่ เป็นพระราชวังที่รัฐบาลพม่าได้จำลองรูปแบบของพระราชวังเก่าขึ้นมา พระราชวังที่เราเดินชมอยู่นี่เป็นของที่สร้างใหม่โดยรัฐบาลทหารพม่าค่ะ เป็นการจำลองสร้างให้ใกล้เคียงกับของที่ก่อนพังมากที่สุด
หอคอย สามารถขึ้นชมทัศนียภาพโดยรอบของพระราชวังได้ เป็นสถานที่ที่พระนางศุภยลัตเสด็จขึ้นไปบนหอคอยในพระราชวังมัณฑะเลย์ แล้วมองเห็นกองทัพอังกฤษยกทัพมา ก่อนจะเสียเมือง
วิวโดยรอบพระราชวังมัณฑะเลย์
…. พระตำหนักไม้สักชเวนานดอว์ (Golden Palace Monastry) …. พระตำหนักนี้สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง งดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ๆ วิจิตรตระการด้วยลวดลายแกะสลักประณีตอ่อนช้อย ทั้งหลังคา บานประตูและหน้าต่าง โดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติ และทศชาติของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้ามินดงในปี พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ย้ายราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อเป็นพระตำหนักยามแปรพระราชฐาน แต่หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าธีบอ หรือ สีป่อ พระโอรสก็ทรงยกพระตำหนักนี้ถวายเป็นวัด ถือได้ว่าเป็นงานฝีมือที่ประณีตของช่างหลวงชาว มัณฑะเลย์อย่างแท้จริง
ความงดงามประณีตของงานแกะสลักไม้ภายในพระตำหนักแห่งนี้ สวยงามมากค่ะ
…. วัดกุโสดอร์ (Kuthodaw Pagoda) …. เป็นวัดที่มี“พระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก” เก็บพระไตรปิฎกฉบับสังคายนาครั้งที่ 5 ซึ่งถือเป็นการสังคายนาครั้งแรกในรอบ 2,000 ปีในสมัยของพระเจ้ามินดง โดยได้จารึกเป็นอักษรพม่าที่ถอดความมาจากภาษาบาลีไว้บนแผ่นหินขนาดใหญ่ 729 แผ่น แล้วสร้างอาคารซุ้มเรือนยอดคลุมไว้ทุกแผ่น
แต่ละแผ่นจะอยู่ในครอบมณฑป ถือเป็นพระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่โดยรอบวัด อยู่รอบพระเจดีย์มหาโลกมารชิน สูง 30 เมตร ซึ่งจำลองรูปแบบมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกองแห่งเมืองพุกาม
…. วัดตอจี Kyauktawgyi Pagoda …. หรือ วัดพระหินอ่อน แห่งเมืองมัณฑะเลย์ แกะสลักด้วยหยกขาวแท้สวยงามมากซึ่งเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปหยกขาวใหญ่ที่สุดในโลก
… พระมหามัยมุนี …. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของชาวพม่า ที่ใครมาพม่าควรจะต้องมาสักการะ และ 1ในนั้นก็คือ” พระมหามัยมุนี ” (Mahamuni Pagoda)
ชาวพม่าจะเรียกว่า มหาเมียะมุนี เดิมเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของยะไข่ กษัตริย์ผู้สร้างทรงพระสุบินว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทานพรให้พระพุทธปฏิมาองค์นี้ เป็นตัวแทนของพระองค์ เพื่อเป็นเครื่องสืบพระศาสนาไปในภายหน้า ด้วยความเชื่อว่า พระพุทธมหามัยมุนี นี้เป็นพระพุทธรูปที่มีชีวิต จึงมีประเพณีล้างพระพักตร์ถวาย โดยทุกเช้า เวลาประมาณ 04.00 น. (ตี 4) พระมหาเถระและสาธุชนทั่วไปที่ศรัทธาจะมาทำพิธีล้างพระพักตร์ด้วยน้ำอบน้ำหอมผสมทานาคาอย่างดี พร้อมกับใช้แปรงทองแปรงที่พระโอษฐ์เสมือนหนึ่งแปรงพระทนต์ถวายพระพุทธเจ้า ก่อนใช้ผ้าจากศรัทธาสาธุชนถวายมาเช็ดจนแห้งสนิท พร้อมใช้พัดทองโบกถวายเป็นอันดีเสมือนหนึ่งได้อุปัฏฐากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยังทรงพระชนมชีพอยู่จริง ๆ พิธีล้างพระพักตร์นี้จะมีเจ้าอาวาสองค์นี้ ซึ่งมาจากการแต่งตั้งเพียงองค์เดียว เป็นผู้ทำพิธีในทุกๆวันค่ะโดยไม่มีวันหยุดเลยค่ะ
การเดินทางมาที่นี่ หากอยากเห็นพิธีแบบใกล้ๆ ควรจะเดินทางมาถึงเวลาประมาณตี 3 กว่าๆ
เพราะชาวพม่าที่ศรัทธาจะมากันจำนวนมาก ประมาณไม่ถึงตี 4 ก็มากันมากมายมหาศาลแล้วค่ะ
หลังจากเสร็จพิธี จะเปิดให้ผู้มีศรัทธาได้ขึ้นไปปิดทองค่ะ ซึ่งอนุญาตเฉพาะเพศชายเท่านั้นนะคะ ผู้หญิงต้องฝากแผ่นทองไปปิดค่ะ และเมื่อท่านเจ้าอาวาส ลงจากพิธีแล้ว จะมีชาวบ้านนำผ้ามาปูให้ท่านเดินถือว่าเป็นสิริมงคล และจะมีการนำดอกไม้จากพิธีดังกล่าวมามอบให้ผู้ร่วมพิธีด้วยค่ะ
…. วัดกุสินารา …. ตั้งอยู่ที่เชิงเขาทางขึ้น Mandalay Hill วัดเก่าแก่อายุกว่า 120 ปี ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ามินดง ชื่อวัดคือชื่อเดียวกับเมืองกุสินาราในประเทศอินเดียซึ่งเป็นสถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ภายในวัดจึงสร้างเป็นบรรยากาศคล้ายโถงถ้ำอันลึกลับ บนเสาวาดเป็นลวดลายของต้นสาละซึ่งตามตำนาน เล่าว่าพระพุทธเจ้าปรินิพพานในป่าใต้ต้นสาละ พระพุทธรูปประธานของวัดเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์อันงดงาม ด้านซ้ายและขวามีรูปปั้นพระสาวก พระฤาษี ยักษ์ และนักบวช ที่เข้ามาเฝ้าพระพุทธเจ้าเมื่อปรินิพพาน
…. มัณฑะเลย์ฮิลล์ (Mandalay Hill) …. ตั้งอยู่กลางเมืองมัณฑะเลย์ ปากทางขึ้นจะมีรูปปั้นสิงห์ขนาดใหญ่สองตัวอยู่ด้านล่าง มีลักษณะอันสวยงาม ซึ่งมีความเชื่อว่าสิงห์สองตัวนี้มีลักษณะเหมือนของจริงมากที่สุด
สามารถขึ้นชมวิวด้านบนได้สองวิธีคือ เดินขึ้นบันได้ 7,292 ขั้น หรือจะนั่งรถสองแถวก็ได้ซึ่งมีให้บริการอยู่บริเวณเชิงเขาแล้วมีบันไดเลื่อนต่อขึ้นไปถึงบนยอดเขาเลยค่ะ
รอบวิหารมีระเบียงสำหรับชมทัศนียภาพเมืองมัณฑะเลย์ได้รอบเป็นวงกลม สามารถมองเห็นจุดสำคัญๆของเมือง เช่น พระบรมมหาราชวัง วัดกุโสดอ โรงแรม
ที่มุมทั้ง 4 ด้านของวิหาร มีพระพุทธรูปปางต่างๆขนาดไม่ใหญ่โตมากนักประดิษฐานอยู่ ให้ชาวพม่าและนักท่องเที่ยวสักการะบูชา
มัณฑะเลย์ฮิลล์ ถือเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกได้สวยงามอีกจุดนึงค่ะ นักท่องเที่ยวต่างมารอชมพระอาทิตย์ตกดินกันจำนวนมาก แล้ววันนี้ก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ แสงยามเย็นที่นี่สวยมากๆ
…. ร้านน้ำชาของชาวพม่า …. ชาวพม่านิยมไปร้านน้ำชา ไม่เพียงเพื่อดื่มชากาแฟ แต่ยังเพื่อการพักผ่อนและพูดคุยกัน บ้างนัดพบปะกันที่ร้านน้ำชา บ้างมาหารือกันในธุระส่วนตัว บ้างมาเจรจาธุรกิจการค้า หรือมาตกลงว่าจ้างนายหน้า บ้างมาสนทนาเรื่องการบ้านการเมือง ข่าวลือข่าวสารต่างๆ
รถโดยสารในเมือง มัณฑะเลย์
…. ห้างโอเชี่ยน …. เป็น Supermarket ของพม่า ด้านในมีของขายหลายอย่างๆคล้ายๆของไทยค่ะ ด้านในมีของฝากสุดฮิตของคนไทย นั่นคือ ชา Royal teamix นั่นเอง
ภายในตัวเมือง มีร้านค้าต่างๆจำนวนมาก ไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไรค่ะแต่คนที่นี่ขับรถน่ากลัวอยู่นะคะ มีการบีบแตรไล่กันตลอดเวลา
สถานที่ต่อไป อยู่ที่เมืองอมรปุระ (Amarapura) เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยมากๆค่ะ สะพานไม้สักอูเบ็ง (U-bein bridge)
สะพานที่ทำจากไม้ที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวถึง 2 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในตอนใต้ของเมืองอมรปุระ ประเทศพม่า สร้างจากไม้สักที่รื้อมาจากพระราชวังเก่าแห่งกรุงอังวะ เมื่อครั้งย้ายเมืองหลวงจากอังวะ มายังอมรปุระจำนวน 1,208 ต้น
สะพานอูเบ็ง ทอดข้ามทะเลสาบตองตะมาน มุ่งตรงไปยังเจดีย์เจ๊าต่อซึ่งอยู่อีกฟากของทะเลสาบ
สองข้างทางของสะพานไม้แห่งนี้ จะเห็นชาวบ้านมานั่งตกปลา หาปลากันตามริมแม่น้ำ บรรยากาศและวิวสวย ตัวสะพานยังคงแข็งแรงดีค่ะ
นอกจากจะเดินชมวิวสวยๆบนสะพานแล้ว ยังมีเรือให้บริการด้วยค่ะ นั่งได้ลำละ 4 คน สามารถเดินไปครึ่งทางของสะพานแล้วลงมานั่งเรือกลับก็ได้ค่ะ
…. วัดมหากันดายง Mahagandayon …. อยู่ไม่ไกลจากสะพานไม้อูเบ็งค่ะ เป็นโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมที่ใหญ่ที่สุดในพม่า มีพระและเณรจำพรรษามากกว่า 1,000 รูป ในทุกๆวันเวลาประมาณ 10.30 น. จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก มาร่วมชื่นชมการจัดเตรียมตักบาตร ถวายภัตตาหารเพลให้แก่พระสงฆ์ และเณรที่มาศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดแห่งนี้
…. ร้านทอผ้าไหม …. ลุนตยา เป็นชื่อของซิ่นพม่า ‘ลุน’ แปลว่า กระสวย ‘ตยา’ แปลว่า หนึ่งร้อย ‘ลุนตยา’ ก็คือ ผ้าทอที่ใช้ด้ายอย่างน้อยๆไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยกระสวย มีวิธีการทอที่พิเศษกว่าผ้าแบบอื่นๆและเป็นผ้าที่มีราคาค่อนข้างสูงหลักหมื่นบาทเลยทีเดียวค่ะ
ภายในร้านมีผ้าให้เลือกซื้อหลายแบบ ทางร้านมีให้บริการ Wifi ฟรีด้วยค่ะ
…. การทำทองคำเปลว …. วิธีการทำคือ นำทองคำแท้มาใส่ไว้กับกระดาษชนิดพิเศษซึ่งทำมาเพื่อใช้ในการตีทองคำเปลาวเท่านั้น แล้วใช้แรงจากคนทำการตีเป็นจังหวะ มีการใช้นาฬิกานับเวลาแบบโบราณ คือนำกะลามาเจาะรูวางบนน้ำ
ภายในร้านมีทองคำเปลวจำหน่ายด้วยค่ะ ทุกๆอย่างใช้วิธีทำมือหมดเลยค่ะ
….โรงแรม….
โรงแรม Mandalay hill โรงแรมระดับ 4 ดาวในมัณฑะเลย์ ที่มีมาตรฐาน บรรยากาศโดยรอบสวยงาม มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สปา ให้บริการอย่างครบครัน Welcome Drink
ภายในห้อง มีขนาดไม่ใหญ่เท่าไร แต่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครันและสะอาดมากๆค่ะ
สระว่ายน้ำขนาดใหญ่และสปา
อาหารเช้า มีให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว ขนมปังต่างๆ มีแซลมอนรมควันด้วยค่ะ
…. ร้านอาหาร …. เมืองมัณฑะเลย์เป็นเมืองที่นิยมทานอาหารไทยมากๆค่ะ ซึ่งตลอดทริปของเรา จะได้ทานแต่อาหารไทยทั้งนั้นเลยซึ่งรสชาติอาหารอร่อยไม่ต่างจากเมืองไทยเลยค่ะ ร้าน Ko’s Kitchen เป็นร้านอาหารไทยขึ้นชื่อของเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งแม่ครัวเป็นคนไทย รสชาติจัดจ้านและอร่อยทุกอย่างเลย
ไฮไลท์ของมื้อนี้ก็คือ กุ้งแม่น้ำเผา กุ้งเนื้อแน่นๆ มันกุ้งเยิ้มๆ ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซบ อร่อยสุดๆค่ะ
มื้อนี้มี น้ำพริกกะปิ, แกงเขียวหวาน, ผัดผัก, ต้มแซบกระดูกอ่อน, ไข่เจียว, ทอดมัน
ร้านต้มยำกุ้ง สาขา2 เป็นร้านอาหารไทยอีกเช่นกัน เป็นอีกร้านที่ชาวพม่านิยมกัน
…. ร้านอาหาร Golden duck …. เป็นร้านอาหารจีนตั้งอยู่ด้านข้างของพระราชวังมัณฑะเลย์นี่เอง อีกหนึ่งร้านดังเช่นกัน อาหารเด็ดของร้านนี้คือเป็ดย่างค่ะ อาหารรสชาติกลางๆค่ะ
มีอาหารเด็ดอีกอย่าง ที่เป็นซีฟู้ดในลูกฟักทองค่ะ จานนี้เราไม่ค่อยชอบเท่าไรอาจจะเป็นเพราะทานไม่เป็นนะคะ แต่นิยมกันมากสั่งกันทุกโต๊ะเลยค่ะ
จบทริป Mandalay ด้วยความประทับใจมากค่ะ สถานทีท่องเที่ยวสวยงาม วัดวาอารามเต็มไปด้วยศรัทธา หากมีโอกาส ต้องกลับเยือนเมืองแห่งนี้แน่นอนค่ะ
Comments
You May Also Like

Minoo Park ธรรมชาติสวยๆใกล้ โอซาก้า
December 24, 2016
Siam Takashimaya ห้างญี่ปุ่นเปิดใหม่ที่ Iconsiam มาดูกันว่ามีอะไรน่าซื้อบ้าง
November 15, 2018